เชลซี vs เรอัลมาดริด การแข่งขันฟุตบอล รายการ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก

การแข่งขันในวันนี้ โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ของ สิงห์บลูเชลซี ได้ใช้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เล่นเป็นตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งซ้าย ส่วนหน้าเป้าใช้เป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ โดยที่จะมี คริสเตียน พูลิซิช กับ เมสัน เมาท์ ที่คอยเล่นประคองอยู่ทางข้างหลัง คอยส่งบอลไปให้นั่นเอง

ในขณะที่ทางฝั่งของ ราชันย์ชุดขาว เรอัล มาดริด ทางด้านของ กุนซือใหญ่ ชาวอิตาลีอยา่ง คาร์โล อันเชลอตติ ที่ตอนนี้ได้หายป่วย จากโรค โควิด-19 ได้อย่างทันเวลา กลับมาคุมทีมข้างสนาม และส่ง เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ เล่นเป็นแนวรุกร่วมกับ คาริม เบนเซม่า และ วินิซิอุส จูเนียร์

เชลซี vs เรอัลมาดริด การแข่งขันฟุตบอล รายการ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ไฮไลท์การแข่งขัน ช่วงครึ่งแรก

ในช่วงต้นเกม 10 นาทีแรก สิงห์บลู เชลซี ออกสตาร์ทเกมได้ดูดีกว่าเป็นอย่างมาก แต่กลายเป็น เรอัล มาดริด ที่มีโอกาสได้ลุ้นก่อนในนาทีที่ 10 นั้นเอง จากจังหวะของ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้โอกาสยิงเข้ากรอบแบบเน้นๆ ทว่าบอลนั้นได้ไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

และในนาทีที่ 21 ก็เป็นทางด้านของ เรอัล มาดริด ที่ได้ประตูขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่ วินิซิอุส จูเนียร์ เล่นบอลชิ่งกับ คาริม เบนเซม่า จากทางฝั่งซ้ายของสนาม ก่อนที่จะเปิดบอลเข้ากลางกลับไปให้ เบนเซม่า ได้โอกาสโหม่งเต็มๆ ส่งผลให้บอลนั้นเสียบใต้คานอย่างสวยงามเป็นอย่างมาก

ราชันย์ชุดขาว เรอัล มาดริด ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ ในนาทีที่ 24 พวกเขาก็มาได้ประตูที่สองเพิ่ม จากจังหวะของ เบนเซม่า คนดีคนเดิม ที่โขกบอลย้อนศร ส่งบอลผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักาาประตูของ เชลซี เข้าไปอย่างสวยงาม ซึ่งประตูนี้ ต้องยกเครดิตให้กับ ลูก้า โมดริช ที่ได้วางบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษอย่างแม่นยำเหมือนจับวาง

แต่แล้วในนาทีที่ 40 สิงห์บลู เชลซี ก็สามารถตีไข่แตกได้สำเร็จ ไล่สกอร์ขึ้นมาเป็น 1-2 จากจังหวะของ จอร์จินโญ่ ที่ได้หยอดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และก็เป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่โขกบอลออย่างเต็มแรง ส่งผลให้บอลนั้นพุ่งเข้าไปตุงตาข่าย ถึงแม้ กูร์กตัวส์ จะปัดได้ก็ตาม แต่บอลนั้นแรงเกินไปจะหยุดยั้งได้

ในนาทีที่ 42 คาริม เบนเซม่า หัวหอกของทีมเยือน เกือบทำแฮตทริกได้สำเร็จ เมื่อ เบนเซม่า มีโอกาสได้ยิงเน้นๆ ในกรอบเขตโทษ แต่ทว่าเจ้าตัวกลับยิงบอลหลุดกรอบไปอย่างเหลือเชื่อ หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันได้เพิ่มเติม ก่อนจะจับครึ่งแรก ไปด้วยสกอร์ เชลซี เจ้าบ้านตามหลัง เรอัล มาดริด 1-2

เชลซี vs เรอัลมาดริด การแข่งขันฟุตบอล รายการ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ไฮไลท์การแข่งขัน ช่วงครึ่งหลัง

เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น ในนาทีที่ 46 จากจังหวความผิดพลาดของ เมนดี้ ผู้รักษาประตูของ เชลซี ที่ส่งบอลน้ำหนักไม่ดีทำให้ เบนเซม่า ได้โอกาสเข้าปั้มบอลชนะ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ก่อนที่เจ้าตัวจะแปบอลเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย ซึ่งประตูนี้ถือเป็นประตูที่ 37 ของ เบนเซม่า ลงเล่นรวมทุกรายการ 36 นัดในฤดูกาลนี้

ในนาทีที่ 50 ทาง สิงห์บลู เชลซี เกือบได้ประตูที่สอง จากจังหวะของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า มีโอกาสได้ลองส่องไกล บอลกำลังพุ่งเข้าไปเสียบสามเหลี่ยม แต่เป็น กูร์กตัวส์ ที่สามารถบินปัดบอลออกหลังไปได้อย่างเหลือเชื่อ

ในนาทีที่ 68 ก็เป็น สิงห์บลูส์ เชลซี อีกครั้งที่พลาดโอกาสได้ประตูอย่างน่าเสียดาย เมื่อ โรเมลู ลูกากู ที่เป็นตัวสำรองลงมาได้จังหวะโขกคนเดียวแบบโล่งๆ แต่บอลหลุดกรอบออกหลังออกไปแบบช็อคทั้งสนาม และหลังจากนั้นไม่ถึงนาที เชลซีก็ได้โอกาสอีกครั้ง จากจังหวะยิงไกลแต่ข้ามคานแบบได้ลุ้นของ เมสัน เมาท์

หลังจากที่เกมแข่งกันครบ 90 นาทีเรียบร้อย ซึ่งถึงแม้มีการทดเวลาบาดเจ็บออกไปถึง 5 นาที แต่ไม่มีฝ่ายใดทำประตูกันได้ จบเกม เชลซี พ่าย เรอัล มาดริด คาบ้าน 1-3 ทำให้ทีมแชมป์เก่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรอง เรอัลมาดริด อย่างมหาศาล ก่อนออกไปบุกถิ่นของ ซานติอาโก เบร์นาเบว ในการแข่งขันครั้งที่สอง ในวันอังคารที่ 12 เมษายน 2565